สรุปวิธีใช้เครื่องมือหาเทรนด์หม้อทอด
ในบทความนี้เป็นเรื่องราวที่อ่านจากหนังสือเล่มหนึ่งเป็นบทที่ผู้เขียนชื่นชอบมากที่สุด แล้วอยากนำมาสรุปใจความมาเล่าต่อแก่ผู้อ่านทุกท่านที่สนใจในเรื่องของ data ได้อ่านกัน ใครกันที่เป็นผู้ปลุกกระแส หม้อทอดไร้น้ำมันให้ตื่นขึ้น ผมเป็นตัวแทนที่จะย่อยใจความหนังสือของคุณ ณัฐพล ม่วงทํา ในบทนี้มาให้ได้อ่านกัน
บทนี้จะเป็นการเล่าเรื่องถึงการใช้เครื่องมือ ในการตามหาว่าใครกันที่เป็นคนทำให้เกิดกระแส หม้อทอดไร้น้ำมัน เครื่องมือที่ว่านั้น คือ Social Listening และ google trend หลายๆคนอาจจะรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกันอยู่แล้ว แต่อาจจะยังไม่รู้วิธีคิด ลองมาอ่านดูกันเลยครับ
เมื่อพูดถึงหม้อทอดไร้น้ำมันที่มันดังขึ้นมาเกิดในช่วงโควิท ซึ่งน่าจะยังพอจำกันได้ใช่มั้ยครับ ในช่วงปี 2020 เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา หลายๆคนจะต้องอยู่กับบ้านเพื่อป้องกันโรคอุบัติใหม่ที่ยังไม่มีวัคซีนเพื่อป้องกัน แล้วอยู่มาวันหนึ่งเกิดกระแสหม้อทอดไร้น้ำมันเกิดขึ้น ตาม social network ต่างๆ จึงเกิดคำถามขึ้นมาว่า
ใครกันนะที่ทำให้เกิดขึ้น เกิดขึ้นได้อย่างไร เกิดขึ้นเมื่อไร เราจะไปหาคำตอบกันด้วยเจ้าเครื่องมือที่ได้กล่าวไปในตอนต้น
Social Listening เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบ จำนวนกระแสหรือแนวโน้มของข้อมูลที่เกิดขึ้นแบบ real-time และสามารถดูย้อนหลังไปได้ตามความสามารถของเครื่องมือนั้นๆ ซึ่งจากคำถามข้างต้นนั้น อาจจะเกิดจากการปั่นกระแสของคนบางคนก็ได้ ซึ่งทำให้เครื่องมือนี้อาจจะยังไม่เหมาะสมที่จะใช้ในตอนเริ่มต้น จึงนำไปสู่คำถามใหม่ ถ้าคนอยากได้หม้อทอดไร้น้ำมันนี้มากๆ จะมีพฤติกรรมอย่างไร มีปัจจัยหรือตัวแปรอะไรมาเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดขึ้น
ผู้บริโภคในยุคนี้เวลาที่อยากได้อะไรมักจะค้นหาข้อมูลผ่านทางเครื่องมือค้นหาอย่าง google อาจจะมีบางคนใช้เครื่องมืออื่นๆ ก็ว่ากันไปตามถนัดแต่โดยคนส่วนใหญ่นั้นติดเครื่องมือของ google กันไปซะแล้ว
เมื่อผู้บริโภคเจอสินค้าที่ตัวเองอยากได้กันแล้ว เพื่อดูข้อมูลและสเปคของสินค้าว่าถูกใจหรือไม่ ถ้าถูกใจแล้วยังหาต่อไปดูว่ามีโปรโมชันอะไรหรือไม่ในช่วงนี้ ซึ่งจากที่ว่าจะดูเฉยๆ ยังไม่อยากซื้อแต่พอเจอโปรโมชันแล้วก็เปลี่ยนใจกันได้ง่ายๆเลยทีเดียว
ส่วนหนึ่งของเหตุผลที่แค่เจอโปรโมชันก็ทำให้ตัดสินใจซื้อในทันที อาจจะยังไม่ถูกต้องนักในสถานการณ์ปกติ แต่ถ้าพูดในช่วงโควิทที่ผ่านมานั้น มีปัจจัยบางอย่างที่ทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อที่รวดเร็วนั้นคือ ความไม่สะดวก รัฐบาลสั่งล็อคดาวน์ ทำได้แค่ต้องสั่ง delivery ได้เท่านั้น ไม่สามารถเดินทางไปดูของจริงได้
จากข้อมูลทั้งหมดที่ลองวิเคราะห์ออกมา ลองนำมาตั้งคำถามกลายเป็นสมมติฐานว่า
"ถ้าอยากได้อะไรคนสมัยนี้ลองค้นหาดูก่อนเสมอ แล้วอยู่ดีๆ ก็เกิดเทรนด์การค้นหา หม้อทอดไร้น้ำมันบน google มากจนผิดปกติ น่าจะเป็นวันนั้นที่ทำให้เกิดกระแสหม้อทอดไร้น้ำมันขึ้นมา"
จากสมมติฐานข้างต้น จะต้องใช้เครื่องมืออีกตัวหนึ่ง คือ google trends มาช่วยในการค้นหาว่า วันไหนที่เกิดเทรนด์ หม้อทอดไร้น้ำมันขึ้นมา
เมื่อเปิด google trend กันแล้วให้ลองใส่คำค้นหา ว่า หม้อทอด, หม้อทอดไร้น้ำมัน, air fryer, deep fryer, Fryer ลงไปดูแล้วระบบจะแสดงกราฟออกมาในรูปแบบของ time series หรือ time line
จากภาพรวมกราฟที่แสดงผล ช่วงตั้งแต่ปี 2020 ไปจนถึงช่วงปลดล็อคดาวน์ คนไทยค้นหาหม้อทอดไร้น้ำมัน น้อยมาก เมื่อถึงเดือนเมษายน 2020 ก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แล้วก็ลดลงในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2020 คือเป็นช่วงที่ปลดล็อคดาวน์
ช่วงใดน่าจะเป็นช่วงที่กระแสหม้อทอดไร้น้ำมันกำลังมา เมื่อลองเจาะลงไปดูที่วันและเวลา สังเกตได้ว่าเป็นวันที่ 4 เมษายน 2020 พบว่าคนไทยค้นหาหม้อทอดถึง 1 เดือนเต็ม
google trend บอกให้รู้ว่าเทรนด์เกิดขึ้นเมื่อไร วันไหนแต่ไม่ได้บอกว่า อะไรหรือตัวแปรที่ทำให้เกิดการค้นหาหม้อทอดขึ้นมาถึงเวลาที่ Social Listening ต้องออกโรง
Mandala Analytics หากใครเคยใช้งานมาแล้ว ลองกดปรับตั้งค่าให้ตรงกับวันที่ต้องการดูเป็นพิเศษ ตามที่สมมติฐานเอาไว้แต่สามารถเลือก Range ได้จึงเลือก 1 มีนาคม 2020 ถึง 31 ตุลาคม 2020 กันก่อน
ระบบก็จะแสดงผล Data Timeline ขึ้นมาพร้อมทั้งจำนวนครั้งในแต่ละ Platform ของ Social App ต่างเช่น facebook instragram twitter ซึ่งจากข้อมูลสถิตินี้ อย่างน้อยอาจจะนำไปใช้โดยให้ Influencer ช่วงในการโปรโมทก็เป็นเครื่องมือที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
จาก 3 ตัวเลือก จาก 2 platforrm ในวันที่ 4 เมษายน 2020 ซึ่งลองดูจาก platform ที่มีสถิติมากที่สุด คือ Facebook และ Twitter คือ คุณลิตเติ้ลเจ
โดย Facebook ประกอบไปด้วย เพจรีวิวอาหารและเพจขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ในส่วนของ Twitter น่าจะมีความเป็นไปได้มากที่สุด เพราะจากรูปภาพที่โพสนั้นเป็นรูปของหม้อทอดไร้น้ำมันที่มีหมูกรอบที่ดูกรอบน่ากิน แสดงอยู่ ซึ่งคำตอบที่ได้และนำไปสู่คำถามถัดไปของข้อสรุปนี้ ด้วยความน่าสนใจของการพรีเซนด้วยการทำหมูกรอบ แบบที่คนต้องการลดความอ้วนไม่ต้องรู้สึกผิดอีกต่อไปใช่หรือไม่ สำหรับคำถามนี้ คุณผู้อ่านทุกท่านลองนำไปถามคนใกล้ตัวหรือคนที่บ้านดูว่าเป็นแบบไหนกันดูครับ
สรุปในสรุปอีกโดยผู้สรุป สุดท้ายนี้เราก็ได้คำตอบอย่างที่เราตั้งคำถามเอาไว้ในตอนต้นบทความ ค้นหาวิธีการและใช้เครื่องมือเพื่อทดสอบสมมติฐานที่ได้ตั้งเอาไว้ มาจนได้คำตอบ
โดยส่วนตัวผู้เขียนรีวิวชอบมากเป็นพิเศษ ที่นำมาสรุปนี้อาจจะเป็นเพียงแค่ข้อความยาวไม่ได้นำรูปภาพมาแสดงผลเอาไว้ เพื่อที่ผู้อ่านที่สนใจลองไปหาซื้อหนังสือมาอ่านเพิ่มเติมก็จะได้รายละเอียดที่เพิ่มมากขึ้น หรือลองทดสอบการใช้งานตามผู้เขียนรีวิวสรุปใจความมาดูก็ได้ครับ
หาก อ่านจบแล้วอย่าลืมแวะไปอุดหนุนได้ที่ร้านหนังสือ ต่างๆนะครับ
สั่งหนังสือได้ที่ SE-ED Book Center
สุดท้ายนี้หากมีประโยชน์ อยากให้ผู้อ่านช่วยกด Ads เพื่อเป็นรายได้แก่ผู้เขียนรีวิว นำหนังสือมารีวิวกันอีกเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจซื้อกันนะครับ
