เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร หลังสงคราม รัสเซีย-ยูเครน จบ? [ตอนแรก]
อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดเดาได้ แต่เราสามารถเรียนรู้จากอดีต เพื่อไม่ให้พลาดซ้ำสองได้ โดยในบทส่งท้ายของหนังสือ The Psychology of Money ผู้เขียนได้ทำการสรุปสภาวะเศรษฐกิจหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ที่น่าสนใจ
ในบทส่งท้าย A Brief History of Why the U.S. Consumer Thinks the Way They Do ผู้เขียนได้เล่าย้อนไปถึงสมัยปี 1945 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงว่า
ความสุขหลังจากการสิ้นสุดลงของสงครามนั้น มาพร้อมกับคำถามที่ว่า
"แล้วหลังจากนี้จะยังไงต่อ?"
ประชากรอเมริกันกว่า 11% ถูกเกณฑ์ไปร่วมสงคราม ราวๆครึ่งหนึ่งเลือกที่จะไม่กลับมา ปัญหา คือ เมื่อเหล่าทหารผ่านศึกที่เหลือหลายล้านนายปลดประจำการ ซึ่งมีอายุเฉลี่ยราวๆ 23 ปี
เมื่อสงครามจบแล้ว พวกเขาจะต้องทำอะไรต่อ? จะไปอยู่ที่ไหน? จะทำงานอะไร?
เนื่องจากในช่วงสงคราม การสร้างที่อยู่อาศัยก็ชะลอตัว เพราะต้องใช้ทั้งงบประมาณและสรรพกำลังต่างๆในการทำสงคราม ทำให้เกิดสภาวะขาดแคลนที่อยู่อาศัย ไม่เพียงพอที่จะรองรับความต้องการของประชาชน เมื่อทหารปลดประจำการเหล่านั้นกลับมา
อาชีพบางอาชีพ ในช่วงสงคราม มุ่งเน้นการผลิตอาวุธ เรือรบ รถถัง ฯลฯ ซึ่งหมดความจำเป็นเมื่อสิ้นสุดสงคราม ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากตกงาน
ไม่ว่าจะเป็นผู้แพ้ หรือ ผู้ชนะ สภาพเศรษฐกิจต่างก็ย่ำแย่หลังจากสภาวะสงคราม อเมริกาเองก็เจอปัญหาหนี้ท่วม ปัญหาต่างๆเหล่านี้สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอีกครั้ง
และเพื่อให้เศรษฐกิจยังไปต่อได้ อเมริกาจึงแก้มือด้วยการลดดอกเบี้ย เพื่อให้ประชาชนออกมาใช้จ่าย จากเดิมก่อนเกิดสงคราม ชาวอเมริกันต้องอยู่อย่างฝืดเคืองจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
พอหลังสงคราม ด้วยการลดดอกเบี้ยจนต่ำ ทำให้ประชาชนและทหารปลดประจำการ สามารถจับจ่ายใช้สอย ซื้อเสื้อผ้า ซื้อรถ รวมถึงซื้อบ้านได้โดยไม่ต้องวางเงินดาวน์ และสามารถผ่อนในปีแรก ได้ถูกกว่าเช่า อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
และในปี 1950 บัตรเครดิต ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น
ส่งผลให้หนี้สินในครัวเรือนในแต่ละปี เพิ่มขึ้นเร็วกว่าในยุคหนี้ท่วมหัวช่วงปี 2000 ถึง 1.5 เท่า
แต่ทุกอย่างยังไปได้สวยอยู่!
โชคดีที่อเมริกาค้นพบว่าตนเองนั้นมีความสามารถในการผลิต ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยสังเกตเห็น เพราะมัวแต่วุ่นอยู่กับปัญหาเศรษฐกิจ แล้วก็ตามมาด้วยสงคราม
ข้าวของ เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ โทรศัพท์ กระแสไฟฟ้า ร่วมกับดอกเบี้ยเงินผ่อนที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ทำให้ประชาชนเข้าถึงสิ่งของพวกนี้ได้โดยง่าย ต่างจากในสมัยที่รุ่นพ่อแม่ที่ไม่สามารถทำได้
เมื่อประชาชนมีความสามารถในการจับจ่าย
โรงงานที่เคยถูกใช้ในการผลิตสินค้าเพื่อการรบ ก็ถูกเปลี่ยนมาผลิตสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค
เมื่อมีการผลิตก็มีการจ้างงาน ทำให้ประชาชนและทหารปลดประจำการมีอาชีพ มีรายได้
จากที่กล่าวมาทั้งหมดในด้านบน
ผู้บรรยายได้ยกตัวอย่างในเห็นภาพว่า
ปี 1942-1945 (ช่วงสงคราม) โรงงานผลิตรถยนต์หยุดการผลิต
แต่พอสงครามจบ ในปี 1945-1949 รถยนต์ถูกขายได้มากถึง 21 ล้านคัน
และภายในปี 1955 รถยนต์ก็ขายได้ถึง 37 ล้านคัน
ปี 1940-1945 มีการสร้างบ้านไม่ถึง 2 ล้านหลัง
แต่พอสงครามจบ ในปี 1945-1950 ก็มีการสร้างบ้านขึ้นมาถึง 7 ล้านหลัง
และสร้างเพิ่มขึ้นอีก 8 ล้านหลังภายในปี 1955
ดอกเบี้ยต่ำ มีกำลังซื้อ
ทุกอย่างกำลังไปได้สวย แต่จะเป็นเช่นนี้ได้อีกนานแค่ไหน
โปรดติดตามตอนต่อไป
หากชื่นชอบบทความนี้ โปรดกดติดตามเพจ เพื่อไม่ให้พลาดเนื้อหาดีๆ ที่ https://www.blockdit.com/wealthyreaders
-----
#การเงิน #เศรษฐกิจ #ประวัติศาสตร์ #สงคราม #จิตวิทยาทางการเงิน #การลงทุน
Warzone vector created by upklyak - www.freepik.com